5543 จำนวนผู้เข้าชม |
หูดเป็นโรคทางผิวหนัง ที่มีลักษณะผิวหนาและแข็งตัวมากกว่าปกติ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) ที่ไปกระตุ้นเชลล์ผิวหนังให้มีการสร้างตัวหนามากขึ้น เกิดได้ตามผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสเชื้อได้ง่าย เช่น บริเวณมือ นิ้วมือ และเท้า
เชื้อ HPV เป็นไวรัสที่แพร่กระจายจากการสัมผัสเชื้อทางผิวหนัง และสามารถติดต่อจากส่วนหนึ่งของร่างกายไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายได้
การรักษาหูด ในปัจจุบันสามารถรักษาให้หายขาดได้ ร่วมกับการดูแลสุขภาพร่างกาย และการป้องกันการสัมผัสเชื้อซ้ำ
อัตราค่ารักษาพยาบาล ( ณ ปัจจุบัน ถึง ธันวาคม 2022)
การรักษาหูดด้วยเทคนิคจี้พ่นไอเย็น (Cryosurgery)
เป็นการพ่นไอเย็น ในบริเวณผิวหนังที่มี หูด ติ่งเนื้อ หรือตุ่มน้ำ ให้เกิดการลดอุณหภูมิแบบฉับพลันด้วยอุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส เป็นการทำลายCellที่ติดเชื้อให้ยุบฝ่อลง นอกจากนี้จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนหลอดเลือด ลดการอักเสบ และลดปวด บริเวณผิวหนังรอบๆ
ข้อดี การรักษาจี้ไอเย็น
หลังรักษาไม่เกิดบาดแผล หรือหลุมแผล ไม่ต้องทำแผล ลดโอกาสติดเชื้อซ้ำ
ข้อจำกัด การรักษาด้วยไอเย็น
ลักษณะการพ่นไอเย็นที่บริเวณหูด
เครื่องมือทันสมัยได้มาตรฐานผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย
โดยFDA, EC certificates
คำแนะนำหลังรักษาด้วย Cryosurgery
หลังรักษา 30 นาที จะรู้สึกแสบ และบวมแดงเล็กน้อย อาการจะดีขึ้นใน 1-3 วัน สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ งดการ ถู แกะ เกา บริเวณแผล และล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หรือสบู่ จากนั้นซับแผลให้แห้ง
ภาพตัวอย่าง การรักษาหูดที่บริเวณใบหน้า หลังการรักษาสัปดาห์ที่1(แผลตกสะเก็ด) และหลุดออกไปในสัปดาห์ที่2
ภาพตัวอย่าง การรักษาหูดที่มือ หลังการรักษา 3วัน(แผลบวมพอง) สัปดาห์ที่1(แผลตกสะเก็ด) และหลุดออกไปในสัปดาห์ที่2
คำถามที่พบบ่อย
จี้ไอเย็นเจ็บหรือไม่?
ความเย็นทำให้ชา โดยไม่ต้องใช้ยาชา ทั้งนี้ขึ้นกับตำแหน่ง ชนิด และขนาดของติ่งเนื้อหรือหูด โดยคุณหมอจะตรวจประเมินก่อนรักษา
ต้องรักษากี่ครั้งถึงหายขาด?
การรักษาขึ้นกับชนิดของหูด โดยทั่วไปรักษา 1-3 ครั้ง เว้นห่างกัน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้หากยังมีการสัมผัสเชื้อจะมีโอกาสเกิดซ้ำได้